บทนำ

ในการจัดทำคู่มือความปลอดภัยในการทำงานให้สอดคล้องกับกฏกระทรวง  กำหนดมาตรฐานในการบริหาร  และจัดการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย  และสภาพแวดล้อมในการทำงาน  พ.ศ. 2549  ซึ่งกำหนดให้คู่มือมีส่วนประกอบหลักอยู่ 2ส่วน  คือ

  1. ขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย
  2. กฎข้อบังคับด้านความปลอดภัย

เพื่อให้หน่วยงานที่จะต้องจัดทำคู่มือดังกล่าวได้เข้าใจ  และมีแนวทางปฏิบัติที่ชัดเจน  อันจะทำให้เกิดประโยชน์กับสถานประกอบการในการที่จะนำคู่มือความปลอดภัยไปใช้ในการปฏิบัติจริงในการทำงานอย่างมีประสิทธิผล  จึงได้มีการจัดทำแนวทาง  ดังนี้

 

องค์ประกอบในคู่มือ

เพื่อให้คู่มือความปลอดภัย  มีความสมบูรณ์ในคู่มือดังกล่าว  ควรมีองค์ประกอบหลัก ๆ ดังนี้

  • นโยบายด้านความปลอดภัย  อาชีวอนามัย  และสภาพแวดล้อมในการทำงาน
  • กฎระเบียบข้อบังคับที่เกี่ยวกับความปลอดภัยของบริษัท  ซึ่งอาจอยู่ในรูปคำสั่ง ,  ระเบียบ  เป็นต้น
  • กฎความปลอดภัยโดยแยกเป็นกฎความปลอดภัยทั่วไป  (General rule)  และ  กฎความปลอดภัยเฉพาะงาน(Specific rule)
  • ขั้นตอนปฏิบัติงาน  (Step by step)  โดยขั้นตอนดังกล่าวจะมีการชี้บ่งอันตราย  (pin point Hazard)  ในแต่ละขั้นตอนอย่างละเอียด  และกำหนดวิธีการป้องกันอันตรายไว้
  • แผนฉุกเฉินต่าง ๆ ของบริษัท  เช่น  แผนอัคคีภัย  แผนสารเคมีหกรั่วไหล  เป็นต้น

 

แนวทางการจัดทำคู่มือ

การจัดทำคู่มือ  เพื่อให้มีความเหมาะสม  และตรงกับสภาพงานของแต่ละสถานประกอบการในการจัดทำ  มีขั้นตอน ดังนี้

 

  • ควรมีการแต่งตั้งคณะทำงาน  ซึ่งประกอบด้วยตัวแทนแต่ละหน่วยงานภายในสถานประกอบการ    โดยตัวแทนแต่ละหน่วยงานจะต้องเป็นบุคลากรที่มีความรู้  ความเข้าใจในงานหลัก ๆ ที่เป็นงาน  Core process  ของหน่วยงานตนเองได้เป็นอย่างดี
  • จัดทำบัญชีงาน  (Task Inventory)  ในแต่ละหน่วย  โดยบัญชีงานที่จัดทำขึ้นนั้น  ในการทำจะต้องเป็นงานทั้งหมด( All  task)  มิใช่เฉพาะเป็นงานที่อันตรายเท่านั้น  ในขั้นตอนที่มีวัตถุประสงค์ที่สำคัญ  เพื่อต้องการทำการรวบรวมงานต่าง ๆ ของ สถานประกอบการ  และจัดทำเป็นบัญชีงานไว้
  • ทำการประเมินงานในแต่ละรายการ  โดยมีการตั้งเกณฑ์ประเมินความรุนแรง  (Severity)  ซึ่งเกณฑ์ดังกล่าว  จะมองดูว่า  หากงานมีความล้มเหลว  บกพร่อง  จะส่งผลกระทบ  ทำให้เกิดความรุนแรงในระดับใด
  • จากขั้นตอนที่ 3  งานที่เป็นงานที่มีผลกระทบก่อให้เกิดความรุนแรง  ปานกลาง  และสูง  จะนำมาจัดทำการแยกขั้นตอนในแต่ละงาน  (Break Task into Step)  พร้อมทั้งดำเนินการ  pin point hazard  ที่แฝงเร้นอยู่ในแต่ละขั้นตอน
  • กำหนดมาตรการควบคุม  ป้องกันอันตรายที่ได้จากการวิเคราะห์ในขั้นตอนที่ 4  ให้ชัดเจน
  • เมื่อผ่านขั้นตอน 1 – 5  มาแล้ว  จะได้ขั้นตอนปฏิบัติงานอันตรายครบถ้วนในทุก ๆ งาน  ซึ่งในส่วนนี้  สถานประกอบการจะทำการรวบรวมเป็นขั้นตอนการปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย
  • ให้คณะทำงานพิจารณาว่า  งานใด  ควรมีการออกกฎเฉพาะงาน  (specific rule)  เพิ่มเติม  โดยการออกกฎเฉพาะงานที่อันตรายสูงเท่านั้น  ไม่จำเป็นต้องมีกฎเฉพาะงานในทุก ๆ งาน
  • สำหรับงานโดยทั่วไป  จะมีการกำหนดเป็นกฎความปลอดภัยทั่วไป  (General rule)  เพื่อใช้เป็นกฎในการควบคุม
  • ทำการรวบรวมกฎทั่วไป  และกฎเฉพาะงานทั้งหมด  เมื่อผ่านขั้นตอนนี้สถานประกอบการจะได้กฎข้อบังคับด้านความปลอดภัย

ขั้นตอนทั้ง 9  ขั้นตอนดังที่กล่าวมาแล้วนี้  หลังจากที่สถานประกอบการได้จัดทำ  และรวบรวมเข้ารูปเล่ม  และเพิ่มเติมข้อมูลให้ครบถ้วนตามองค์ประกอบของคู่มือ  สถานประกอบการก็จะได้คู่มือความปลอดภัยในการทำงานอย่างสมบูรณ์

ความแตกต่างระหว่างคู่มือความปลอดภัยกับคู่มือระบบการบริหารจัดการความปลอดภัย

 

เพื่อที่จะให้สถานประกอบการได้เห็นความแตกต่างของคู่มือความปลอดภัย  กับ  คู่มือระบบการบริหารจัดการความปลอดภัย  ทางผู้เขียนขอวิเคราะห์ให้เห็นนความแตกต่าง  ดังนี้

 

 

คู่มือความปลอดภัย

คู่มือระบบการบริหารจัดการความปลอดภัย

1)

ประกอบด้วยขั้นตอนปฏิบัติงานอย่างปลอดภัย

1)

จะเขียนเป็นรูปแบบของ  Safety Manual ,

 

และกฎข้อบังคับด้านความปลอดภัย

 

Safety Procedure  ซึ่งจะแสดงให้เห็นขั้นตอนการ

 

 

 

บริหารจัดการ  โดยจะบอกว่า  ใคร ,  ต้องทำอะไร ,

 

 

 

ที่ใด ,  อย่างไร

2)

เทคนิคที่ใช้  จะใช้การวิเคราะห์งาน

2)

การเขียนคู่มือ , ระเบียบปฏิบัติ  จะเขียนให้

 

(Job/Task Analysis)  โดยลงรายละเอียดในแต่ละ

 

สอดคล้องกับข้อกำหนดของระบบการบริหาร

 

งานอย่างชัดเจน

 

จัดการความปลอดภัยที่สถานประกอบการเลือกใช้

 

 

 

เช่น  มอก.18001  ,ILO -OSHMS 2001  เป็นต้น

3)

จะทำการทบทวนทันที  เมื่อมีการเปลี่ยนแปลงงาน

3)

การทบทวนคู่มือระบบการบริหารจัดการความ

 

เพื่อให้ขั้นตอนการทำงานมีความทันสมัยอยู่เสมอ

 

ปลอดภัยจะทำการทบทวนตามรอบระยะเวลาที่

 

 

 

กำหนดไว้  เช่น  ทุก 6 เดือน ,  ทุก 1 ปี  เป็นต้น

4)

จะใช้เป็นแนวทางในการสอนงานให้ผู้ปฏิบัติที่ต้อง

4)

จะใช้เป็นแนวทางให้ผู้ที่เกี่ยวข้องในระดับบริหารได้

 

ทำงานอันตราย ๆ ได้เข้าใจถึงอันตรายและวิธีการ

 

ใช้เป็นแนวทางปฏิบัติในการบริหารระบบ

 

ป้องกัน

 

 

5)

การตรวจสอบจากการตรวจสอบการปฏิบัติงานจริง

5)

การตรวจสอบเป็นการตรวจ  Audit  ระบบการ

 

ของผู้ปฏิบัติงาน

 

บริหารจัดการ

 

 

ผู้เขียนหวังว่า  แนวทางที่ได้เขียนขึ้นคงจะเป็นประโยชน์กับสถานประกอบการต่างๆ ที่จะต้องมีการจัดทำคู่มือข้อบังคับด้านความปลอดภัยให้สอดคล้องกับข้อกำหนดในกฎหมายอันจะส่งผลทำให้สถานประกอบการเกิดความปลอดภัยอย่างยั่งยืนต่อไป